Family Lifestyle Mall
ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์มอลล์
เนื่องจากการขยายตัวของชุมชนภายในตัวเมือง จากการเพิ่มของประชากร การอยู่อาศัยภายในเมืองเริ่มหนาแน่นมากขึ้น เกิดความแออัดภายในตัวเมืองบริเวณที่ว่างที่ใช้ในการปลูกสร้างที่อยู่อาศัยภายในเมืองเริ่มน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ราคาที่ดินภายในเมืองสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากเมื่อเทียบกับบริเวณรอบเมืองแล้วจะมีราคาที่ดินที่ถูกกว่ามากและยังได้ที่อยู่อาศัยเป็นลักษณะบ้านหลังเดี่ยวและยังมีพื้นที่ว่างโดยรอบให้ได้ใช้งานเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยแบบครอบครัวที่คุ้มค่ากว่าห้องชุดเล็กๆที่มีราคาแพง ดังนั้นแนวโน้มที่อยู่อาศัยในปัจจุบันจึงเริ่มมีการขยายตัวออกสู่รอบเมืองมากขึ้นจากการตัดถนนหลายๆสายทำให้พื้นที่โดยรอบบริเวณนั้นมีโครงการที่อยู่อาศัยเกิดขึ้นอย่างชุกชุมส่งผลให้เกิดชุมชนที่อยู่อาศัยขึ้นมา ซึ่งชุมชนเหล่านี้เป็นชุมชนที่มีผู้ที่อาศัยเริ่มจะหนาแน่นจากโครงการที่เริ่มเปิดตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกันภายในพื้นที่ภายในชุมชนเหล่านั้นยังขาดสิ่งที่อำนวยความสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า ที่เพียงพอต่อประชากรที่จะเข้ามาอาศัยอยู่ เมื่อเปรียบเทียบกับจำนวนของโครงการที่เกิดขึ้นและที่กำลังจะแล้วเสร็จ
โครงการศูนย์การค้าก็เป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต่อชุมชนเพราะเกี่ยวข้องกับการอุปโภค บริโภค การให้บริการต่างๆ รวมถึงการเดินพักผ่อนหย่อนใจ ในชีวิตประจำวัน ซึ่งชุมชนเหล่านี้บางครั้งก็มีเพียงตลาดนัดหรือตลาดสดเท่านั้นที่จะมาตอบสนองความต้องการของคนในชุมชน ด้วยเหตุนี้โครงการศูนย์การค้าสำหรับชุมชนจึงเกิดขึ้นทำให้คนภายในชุมชนได้มาจับจ่าย ใช้บริการ และพักผ่อนในชีวิตประจำวันโดยที่ไม่ต้องเดินทางไกลไปห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ลดปัญหาเรื่องการจราจรติดขัด การเสียเวลาและเปลืองค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ดังนั้นศูนย์การค้าสำหรับชุมชน(Community Shopping Center) จึงเป็นทางเลือกใหม่ที่สามารถตอบสนองต่อการใช้งานภายในชุมชนได้โดยตรงทำให้คนภายในชุมชนมีสภาพที่เป็นมาตรฐาน สะดวก สะอาด ปลอดภัย และเปิดให้บริการทุกวัน ซึ่งเมื่อเทียบกับตลาดนัดหรือตลาดสดแล้วถือว่าตอบโจทย์ได้ดีมากกว่า โครงการนี้จึงเป็นการกระจายความเจริญสู่ชุมชน ยกสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนภายในชุมชนให้ดียิ่งขึ้น
แนวความคิดหลัก การสร้าง Approach ภายในโครงการให้มีการเชื่อมต่อของ Space ต่างๆอยู่ตลอดเวลา โดยการใช้เส้นโค้งเป็นตัวกระตุ้นการรับรู้ ซึ่งเป็นเส้นสายที่แตกต่างจากบริบทโดยรอบ จึงทำให้เกิดความน่าสนใจ แต่เส้นโค้งในงานทำให้ user ที่เข้ามาใช้งานเกิดมุมมองและการเคลื่อนไหว ไม่ปิดกั้นมุมมอง ทำให้ทุกElement ของโครงการได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ และSpaceที่รองรับกิจกรรมของครอบครัว รวมถึงการเชื่อมโยงกิจกรรมของการจับจ่ายใช้สอยแนวตั้งเพื่อดึงดูดให้คนไหลเวียนขึ้นไปในทุกระดับชั้น โดยการลดหลั่นของระดับชั้น เพื่อดึงสายตาต่อเนื่องตั้งแต่ระดับฟุตบาทเข้าไปสู่ตัวโครงการ และไม่ทำลายสภาพหน้าดิน
การออกแบบ Mass อาคารให้มีการแตกตัวสัมผัสกับบรรยากาศที่ร่มรื่น เอื้อประโยชน์ในเรื่องของการระบายความร้อน ทำให้เกิดการหมุนเวียนของอากาศภายในอาคารช่วยสร้างภาวะสบายและประหยัดพลังงาน มีการปลูกต้นไม้ และบ่อน้ำช่วยในการVentilation และหันด้านแคบเข้าหาแดด และเปิดมุมมองด้านกว้างเข้าหาทิศที่ไม่ร้อน อีกทั้งยังช่วยเพิ่มมุมมองของตัวร้านค้า และกิจกรรมต่อเนื่องที่เกิดจากการสร้าง Pocket Space หรือ Cord เชื่อมเข้าไปทุก Function ของครอบครัวกระตุ้นให้มีการอยากจับจ่ายซื้อของต่อ และยังสามารถรองรับการจัดงาน Event กระตุ้นการขายเพื่อดึงดูดและสร้างสีสรรในการช็อปปิ้ง
โครงการมีการออกแบบ Site Planning ให้มีการลิงค์การเชื่อมต่อกับบริบทที่อยู่รอบด้านที่เป็น Magnet ที่จะดึงคนของย่านให้มารวมตัวช็อปปิ้งในจุดนึ้ มีการเชื่อมโยงกับโครง Homepro ในระดับชั้น 1 ทางด้านทิศเหนือ และเชื่อมต่อสะพานลอยกับโครงการ The Walk ในระดับชั้นสองทางด้านทิศะวันออก จึงทำให้ตัวโครงการได้รับผลประโยชน์การกลุ่มคนจากทั้งสองโครงการด้วย
การเชื่อมPlaza ริมน้ำ เนื่องจากบริบทเดิมบริเวณทางทิศใต้ของ Site ติดกับคลองที่มีน้ำสะอาดขนาดใหญ่ จึงทำให้การออกแบบโครงการใช้ประโยชน์การสร้างลานกิจกรรมใหญ่ริมน้ำ รองรับงานเทศกาลสำคัญของคนในย่าน เช่น งานลอยกระทง งานปีใหม่ งานคริสมาสต์ เป็นต้น
[Best_Wordpress_Gallery id=”5″ gal_title=”Family Lifestyle Mall”]