>เอก – เอกอนันต์ จันทร์เอี่ยม<<
คณะการออกแบบและสถาปัตยกรรมศาสตร์
FB : ป่าก์ Cafe’

เล่าให้ฟัง
“ธุรกิจที่ผสานการออกแบบ”
จากความชอบนั้นเป็นยังไง
จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ หรือ ร้านป่าก์ cafe’ มาจากผมมีที่ดินใกล้นนทบุรี จึงอยากสร้างพื้นที่นี้ เป็นเสมือนสวนหลังบ้านของคนกรุงหรือแนวคิดอาบป่า ผมอยากออกมาจากงานประจำซึ่งเป็น Comfort zone อยากออกมาหาความท้าทายในชีวิต อยากควบคุมและบริหารเวลาเป็นของตัวเอง จึงปรึกษาพี่สาวที่ทำเบเกอรี่เป็นรายได้เสริมอยู่แล้ว มาหุ้นกันเปิดร้านเล็กๆ ในสวนเราเอง ระหว่างนั้นที่ผมยังทำงานประจำอยู่ ก็เริ่มหาออฟฟิศที่สามารถให้เราเข้างานได้ 3 วัน เพื่อใช้วันที่เหลือมาทำร้าน พอร้านเสร็จและเปิดบริการ สามารถสร้างรายได้ จึงค่อยๆ ถอยออกจากงานประจำมาทำร้านเต็มตัว และทำอาชีพสถาปนิกรับงานส่วนตัวควบคู่กันไป เพื่อให้เกิดรายได้ที่พอต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การได้ออกจากวิถีของงานประจำ ทำให้เรามีเวลาในการคิดเรื่องต่างๆ มากมาย ทำให้ผม ได้ขยายธุรกิจอื่นตามมาอีกด้วย

แต่การทำธุรกิจ ไม่พ้นคำว่า “อุปสรรค” แน่นอนว่า ผมทำร้านจากแรงบันดาลใจล้วนๆ ซึ่งคอยถีบให้ผมทำมันให้สำเร็จ และเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันทุกอย่าง การทำร้านคือความรู้ใหม่เกือบทั้งหมด เช่น การบริหารคนทั้งลูกน้องและลูกค้า การบริหารเงินหรือต้นทุน กำไร การบริหารการตลาด เช่น โปรโมตร้าน กระตุ้นยอดขาย การคิดเมนูอาหาร เมนูน้ำ การตกแต่งหน้าตาอาหาร ต้องใช้คำว่าโชคดีนะครับที่ผมได้เรียนคณะการออกแบบและสถาปัตยกรรมฯ ที่ช่วยผมไว้ได้เยอะมาก เยอะยังไง? ต้องตามอ่านจนจบเลยครับ

เด็กสถาปัตย์
#ก็สร้างธุรกิจได้นะครับ
ผมเป็นเจ้าของธุรกิจอยู่ 3 อย่าง ขอเล่าสั้นๆ เกี่ยวกับธุรกิจทั้งหมดประมาณนี้ครับ

• ป่าก์ cafe’  : ป่าก์ มาจาก พ่อครัวหัวป่าก์ เป็นคำโบราณที่หมายความว่า “คนทำอาหารอร่อย” และ ป่า ที่หมายถึง “ที่ที่มีต้นไม้เยอะๆ” พ้องเสียงกันพอดี จึงได้ชื่อร้านนี้มาเป็นร้านกาแฟ เบเกอรี่และอาหาร ที่หุ้นส่วนกับพี่สาวที่ชอบทำเบเกอรี่ ส่วนผมชอบทานกาแฟเป็นพิเศษ ตัวร้านสร้างในพื้นที่สวนเดิมของที่บ้าน พยายามออกแบบโดยเก็บต้นไม้ไว้ให้มากที่สุด โดยก่อสร้างอาคารด้วยวิธีโบราณ เนื่องจาก อุปกรณ์เครื่องจักรขนาดใหญ่เข้าพื้นที่ไม่ถึง ตัวอาคารคร่อมอยู่กับร่องสวนเดิม และให้ต้นไม้ใหญ่ทะลุพื้นขึ้นมาที่ระเบียงเพื่อให้ร่มเงาแก่ร้าน ทางกายภาพ ผมเลือกที่จะออกแบบร้านให้เกิดขั้นตอนของการเดิน และผ่านซีนต่างๆ เข้ามาในร้าน ลูกค้าจะได้เกิดประสบการณ์และความรู้สึกให้น่าสนใจขึ้น ผมใช้แนวคิด “อาบป่า” หรือ Forest Bathing ที่ว่าด้วยเรื่องการพาตัวเองเข้าไปในธรรมชาติ เพื่อจะเยียวยาจิตใจ ในทางวิทยาศาสตร์สารบางอย่างจากธรรมชาติ สามารถรักษาโรคได้จริงๆ ครับ เสมือนเป็นสวนหลังบ้านของคนเมือง

• น้ำ/โฮม/คราฟ และ ร้าน Deepvibe : สองร้านนี้เป็นธุรกิจขายคราฟต์เบียร์ มีบริการห้องพักและกาแฟ ซึ่งขยายต่อยอดมาจากร้าน ป่าก์ โดยร้านน้ำ/โฮม/คราฟ เป็นบ้านไม้ริมน้ำที่ถูกปรับปรุงเป็นห้องพัก ด้วยความที่ผมรักในงานสถาปัตยกรรมที่อยู่สบาย และรักในงานไม้ จึงอยากทำธุรกิจนี้เพื่อถ่ายทอดความอยู่สบายของบ้านไม้ริมน้ำให้ผู้คนได้เข้ามาใช้งาน ส่วนร้าน Deepvibe นั้นเดิมทำคราฟต์เบียร์ และ Architect Studio ในตัวครับ ซึ่งผมนั่งทำงานอยู่ในส่วนนี้ ปัจจุบันกำลังทำสตูดิโอให้เป็นรูปแบบสำนักงานที่จริงจังขึ้น มีพนักงานรวมผม 3 คน รับงานออกแบบ ก่อสร้างทั้งภายในและภายนอกครับ

• Headman Studio : สตูดิโอออกแบบสถาปัตยกรรมและตกแต่งภายใน ชื่อนี้เกิดจากคำไทยที่ว่า “ผู้ใหญ่บ้าน” หรือ “กำนัน” แนวคิดการตั้งชื่อนี้ คืออยากให้ความหมายของชื่อผูกพันกับชาวบ้าน ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

อย่าลืมตั้งคำถาม?
ให้ธุรกิจเดินหน้าต่อ
ผมเรียนรู้เคล็ดลับต่างๆ จากอินเทอร์เน็ตมากมายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ หัวใจสำคัญที่ร้านทำอยู่จนถึงปัจจุบัน คือ คำถามที่ว่า ร้านเราให้อะไรกับลูกค้า ทำไมลูกค้าถึงต้องกลับมาที่นี่หลายๆ รอบจุดขายของร้าน ต้องมีเอกลักษณ์หรือความต่างจากร้านอื่นยังไง เราจะทำให้ลูกค้าจำในเรื่องที่ดีและให้ลูกค้าเป็นกระบอกเสียงบอกต่อยังไงได้บ้าง ทำยังไงให้ร้านมีการเคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น คิดเมนูใหม่ๆ มีกิจกรรมเสริมที่ร้าน เป็นต้น ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ให้มาก

SoDA ตัวช่วยในการ
ทำธุรกิจแบบ
“เข้าใจและเข้าถึง“
มาถึงคำถามที่ผมเกริ่นไว้ข้างต้น นั่นคือทำไมการเรียนที่ SoDA ถึงช่วยผมเยอะมากมากขนาดนี้ เพราะคณะนี้สอนให้เราเข้าใจคน เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจพื้นที่ เข้าใจมุมมอง เข้าใจศิลปะ เข้าใจวิทยาศาสตร์ เข้าใจความสวยงาม เข้าใจความรู้สึก เข้าใจการทำงานเป็นระบบ เข้าใจการมองภาพรวม เข้าใจความทุกข์และความสุข สิ่งเหล่านี้ถ้าเราเข้าใจทั้งหมด เราก็สามารถทำธุรกิจโดยมองไปที่คนและสิ่งรอบข้าง เรียกว่าองค์รวมทั้งหมดได้เลยนะครับ

>>>อ่านถึงนี่แล้ว<<<
อยากแนะนำน้องๆ ครับ
น้องๆ ครับ Passion คือจุดเริ่มต้นนะ น้องอยากทำอะไร หามันให้เจอโดยเร็ว ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนต้องหาให้เจอ หรืออาจเริ่มด้วยคำที่ว่าเรามีต้นทุนอะไรที่ถือไว้ในมือ พยายามมองจากสิ่งที่มีอยู่แล้วว่าทำอะไรกับมันได้บ้าง

• “การวางแผน” : เมื่อรู้ว่าว่าอยากทำอะไร ทุกอย่างจะประสบความสำเร็จได้ เริ่มจากการวางแผน ทั้งแผนระยะสั้น และแผนระยะยาวที่เราตั้งเป้าหมายไว้

• “การลงมือทำทันที” : เมื่อคิดได้รอบคอบ บางอย่าง ทำให้เร็ว เพื่อจะได้รู้ว่าเราชอบมันจริงหรือไม่ ถ้าไม่ใช่จะได้รีบถอย ส่วนบางอย่างค่อยๆ ทำครับ เมื่อเริ่มรู้ว่าเราชอบมันจริงๆ

• “ลงลึกกับสิ่งที่ทำ” : เมื่อเรารู้สึกว่ามาถูกทางแล้วให้เรียนรู้ลึกลงไปอีก ทำจนชำนาญกว่าคนอื่น ทำให้พิเศษกว่าคนอื่น

• “อย่าหยุดเรียนรู้” : ความรู้เกิดขึ้นได้ทุกเวลา ทุกองค์ความรู้สามารถสร้างธุรกิจได้เสมอ หาช่องทางของมัน หาปัญหาของมัน หาข้อดีข้อเสียของมันนะครับ

• “รักษาสุขภาพ” : ด้วยนะครับ สุขภาพที่ดีจะทำให้เราขับเคลื่อนสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ ดูแลทุกอย่างแล้ว อย่าลืมดูแลตัวเองด้วย

  “

ขอบคุณนะครับที่ให้โอกาสรุ่นพี่ได้แนะนำแลกเปลี่ยนความรู้
ขอให้น้องๆ ทุกคน ประสบความสำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ครับ

”