บดินทร์ ศรีตระกูล

บดินทร์ ศรีตระกูล (พี่อั๋น)

 
 
ดีกรีรางวัลมากมาย

- Thailand peoperty awards ปี 2013-2018
- Asia pacific property awards ปี 2017-2018
- Asia property awards ปี 2018
- International property awards ปี 2016
- The Best Architectural villa design awards ปี 2013 - 2018

 

Q & A กับพี่อั๋น

 

 

 

ตอนนั้นพี่จบ ปวช. และก็ทำงานปี 1 ทำงานเขียนภาพ perspective สมัยก่อนคอมพิวเตอร์ยังไม่ค่อยมี และก็ทำโมเดลบ้าง เป็นฟรีแลนซ์และก็ทำงานบริษัท ก็เลยเลือกมาเรียนต่ออีกนิดนึง เผื่อขยับขยายตัวเอง คือที่มาที่ไป ค่อนข้างจะรู้เรื่องสาขาวิชาชีพนี้มานานแล้ว และได้ทำงานด้านนี้มาก่อนด้วย จึงได้มาเรียนต่อด้านนี้

 

 

 

มันก็ตาม scope ณ ตอนนั้นนะ ถามว่าเยอะไหม มันก็ไม่เยอะหรอก เพียงแต่ว่าบางอย่างเราก็ไม่ค่อยถนัด คนที่จบสายอาชีพมาแล้วมาเรียนสถาปัตย์ฯ ต่อ 5 ปีเนี้ย ก็จะติดขัดในเรื่องของวิชาการนิดนึง แต่เรื่องงาน เรื่องอะไร ก็ถือว่าโอเค ถือว่าได้ความรู้เยอะในช่วงนั้นเปิดวิสัยทรรศ เริ่มเข้าใจงานมากขึ้น

 

 

 

อันดับแรกเลยคือได้เรื่องของเวลา เพราะว่าปัญหาที่พี่เรียนและก็ออกไปกลางคันเนี้ยหลักๆ คือเรื่องของเวลามากกว่า เพราะเราไม่สามารถรักษาเวลาได้ เลยได้เอาแนวคิดเนี้ยมาประยุกต์ ใช้ในสาขาวิชาชีพนี้ เวลาสำคัญที่สุด 2. คุณต้องทำงานใต้แรงกดดันให้ได้ 3. เมื่อเสร็จแล้วเนี้ยมันโดนรึเปล่า มันตอบโจทย์รึเปล่า นี้คือส่วนที่เราได้มา 3 อย่างนี้คือเบื้องต้นที่เราได้มาเพื่อนำมาใช้ในการทำงา

 

 

 

ตอนนั้นมีแฟนเรียนอยู่คณะสถาปัตย์ฯ ศรีปทุม เหตุผลก็เป็นเรื่องทั่วไป เราอยากอยู่ใกล้แฟน

 

 

เป็นได้นะ พี่ได้วิธีคิดแบบสถาปัตย์มาใช้ในการทำงานเบื้องต้น เริ่มแรกคือมุมมอง มุมมองเนี้ยเรามองแว๊บแรกเราจะมองเป็นบวก คือคนที่เรียนสถาปัตย์เนี้ยจะมีวิธีคิดแบบหาทางออก ได้ไวกว่าคนปรกติ ส่วนนี้ที่พี่ได้ใช้จริง พี่เริ่มต้นตอนพี่ทำงานจริงงานแรกๆ ที่พี่ทำไม่ได้เกี่ยวกับงานออกแบบเลย 
เพราะพี่ออกจากมหาลัย ก็เริ่มต้นทำงานในร้านอาหาร ก็ได้ใช้ทักษะในการสเก็ดภาพบ้าง จนคนเริ่มเห็นทักษะเราเลยขยับตัวเองมาอีกระดับได้ มาจากพื้นฐานการเรียนสถาปัตย์ด้วยกันทั้งนั้น ความรู้ความเข้าใจ ความฉกฉวยโอกาส ทักษะทุกอย่างของนักออกแบบทุกคน

 

 

 

รู้สึกไม่เปลี่ยน ความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์เนี้ยไม่เปลี่ยน ยังคุยกันได้เหมือนเดิม ไม่มีเจ้ายศเจ้าอย่างใส่กันเหมือนสถาบันอื่นๆ คือความเป็นกันเอง ความเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องมันไม่เคยเปลี่ยนไป

 

 

 

มันเป็นเหตุผลที่ทำให้เรากลับไปอีกรอบเลยเพราะว่า อบอุ่น กลับไปที่คณะแล้วมีความรู้สึกว่าเหมือนเดิม รุ่นพี่จำเราได้ อาจารย์จำเราได้ ทุกคนในนั้นมีความใส่ใจซึ่งกันและกัน ถือเป็นจุดแข็งของคณะสถาปัตย์ฯ ศรีปทุม เพราะพี่เรียน 2 ปี ประสบการณ์ตรงมีแค่ตรงนั้น มันมีอะไรที่ค่อนข้างมีผลกับตัวเรา เพราะถ้าเรากลับไปที่ที่เรามีความรู้สึกคุ้นเคยอยู่ แปลว่ามันต้องมีเสน่ห์หรือมีอะไรอยู่ในนั้น

 
อย่าไปกลัวความผิดพลาด ทำอะไรก็แล้วแต่ คือนักออกแบบเหมือนนักทดลอง ถ้าไม่ผิดมันก็ไม่รู้ว่าทำถูกยังไง เพราะฉนั้นความกลัวทำให้เราไม่สามารถเดิมไปข้างหน้าได้ แล้วก็ข้อจำกัด มันเป็นวิธีคิดอย่างหนึ่ง ตำราคือสิ่งที่คนเขียนให้เรา มันต้องมีจุดมุ่งหมายในตัวเอง นั้นหมายถึงว่า เราต้องมองโลกหลายๆ ด้าน เอาข้อผิดพลาดมาเป็นครู แล้วก็เอาประสบการณ์ที่ได้รับจากการศึกษาเนี้ยมาเป็นเข้มทิศไว้ก่อน 

แต่อย่ามองว่าเอาใบปริญญามาเป็นเงื่อนไขในการที่จะเดินไปข้างหน้า มันจะทำให้ติดกับดักใบปริญญา จริงๆ แล้วทุกคนมีสกิล ทักษะ อยู่ในตัวเอง เพียงแต่ว่าบ้างครั้งเนี้ยกับดักตรงนั้นมันใหญ่เกินไป ทำให้ไม่สามารถก้าวข้ามได้ กล้าไว้ก่อน กล้าไว้แล้วก็มั่นใจในตัวเอง และก็ขยัน อดทน อดทนกับคำติชินนินทาอะไรก็แล้วแต่ การเรียนวิชาชีพด้านนี้ต้นทุนของแต่ละคนไม่เท่ากัน บ้างทีผลงานมันออกมาก็ขึ้นอยู่กับต้นทุนหลายๆ อย่าง เพราะฉนั้นต้องกล้าไว้ก่อน